บุญลาภฟาร์ม จำหน่าย พันธุ์ปลาน้ำจืดทุกชนิด พันธุ์ปลาดุก พันธุ์ปลานิล พันธุ์ปลาทับทิม พันธุ์ปลาสวาย พันธุ์ปลาบึก พันธุ์ปลาตะเพียน ปลาไซด์ใหญ่ บ่อตกปลา ส่งทุกที่-มีทุกพันธุ์ 081-3057577 farm-fish@hotmail.com **** 46ม.7ต.ท่าข้ามอ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี ****
พันธุ์ปลาดุก ขนาด(2-3)นิ้ว
พันธุ์ปลาดุก ขนาด(3-4)นิ้ว
พันธุ์ปลาดุก ขนาด(4-5)นิ้ว
พันธุ์ปลานิล
พันธุ์ปลาทับทิม
พันธุ์ปลาสวาย
ปลาสวายลงบ่อตก
กุ้งก้ามกราม
พันธุ์ปลาแรด
พันธุ์ปลาหมอไทย
พันธุ์ปลาจาระเม็ดน้ำจืด
พันธุ์ปลาจีน
พันธุ์ปลาตะเพียน
พันธุ์ปลายี่สก
พันธุ์ปลาจระเข้
พันธุ์ปลาไน
พันธุ์ปลาบึก
ปลาบึกลงบ่อตก
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ โรคปลา แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ โรคปลา แสดงบทความทั้งหมด
วันพุธที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2553
Prophylaxis การป้องกันโรค
ป้ายกำกับ:
โรคปลา
วันอังคารที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2553
โรคปลานิล
ชนิดของปรสิตภายนอก ได้แก่
เนื่อง จากปัจจุบันผลผลิตปลานิลยังไม่เพียงพอกับความต้องการของตลาด ดังนั้นเกษตรกรส่วนใหญ่จึงเร่งเพิ่มกำลังการผลิตต่อหน่วยพื้นที่ โดยการปล่อยปลาในอัตราที่หนาแน่นมาก ในกรณีนี้ หากฟาร์มใดขาดการจัดการที่ดีจะเป็นผลให้สิ่งแวดล้อมในบ่อไม่เหมาะสม ทำให้เกิดความเครียดเป็นสาเหตุให้เกิดโรคได้ง่าย ซึ่งพอจะแบ่งโรคของปลานิลออกตามสาเหตุได้ดังนี้
โรคที่มีสาเหตุมาจากปรสิตภายนอก
ปรสิต ภายนอกที่ทำอันตรายต่อปลานิลมีหลายชนิด โดยปรสิตจะเข้าเกาะในบริเวณเหงือก ผิวหนังและครีบ ทำให้ปลาเกิดความระคายเคือง เกิดบาดแผล ส่วนพวกที่เกาะบริเวณเหงือกจะทำให้มีผลต่อระบบการแลกเปลี่ยนก๊าซทำให้ปลา เกิดปัญหาขาดออกซิเจนได้
ชนิดของปรสิตภายนอก ได้แก่
1. โปรโตซัว พยาธิในกลุ่มนี้จะทำลายต่อลูกปลามากกว่าปลาขนาดใหญ่ ชนิดของโปรโตซัวที่พบบ่อย ได้แก่ เห็บระฆัง Trichodina sp., Chilodonella sp., Ichthyophthirius multifilis, Epistylis sp., Scyphidia sp., Apiosoma sp., และ Ichthyobodo sp.
การรักษา : ใช้ฟอร์มาลิน(formalin) อัตราเข้มข้น 5 - 50 ppm.
2. ปลิงใส ได้แก่ Gyrodactylus sp. และ Dactylogyrus sp. พวกนี้จะเข้าเกาะบริเวณเหงือกทำให้เหงือกมีผิวหนาขึ้น หรือเกิดอาการบวม ทำให้ปลาหายใจไม่สะดวก
การรักษา : เช่นเดียวกับโปรโตซัว
3. ครัสเตเซียน ได้แก่ Arhulus sp., Ergasilus sp., Lernaea sp. และ Lamproglena sp. ปรสิตในกลุ่มนี้ ส่วนของอวัยวะที่มีปลายแหลมฝังเข้าไปในเนื้อปลาเพื่อช่วยในการยึดเกาะและ / หรือกินเซลล์ หรือเลือดของปลาเป็นอาหาร ซึ่งทำอันตรายต่อปลาอย่างรุนแรง ทำให้ปลาเกิดแผลขนาดใหญ่ และสูญเสียเลือด ถ้าพบเป็นปริมาณมากจะทำให้ปลาตายอย่างรวดเร็ว ปรสิตกลุ่มนี้มักพบในปลานิลที่เลี้ยงในกระชังเป็นส่วนใหญ่
การรักษา : ใช้ดิพเทอร์เรกซ์(Dipterex) ในอัตราความเข้มข้น 0.25 - 0.5 ppm. แช่ตลอด
โรคที่มีสาเหตุมาจากปรสิตภายใน
ปรสิตกลุ่มนี้มักพบอยู่ในทางเดินอาหาร และไม่ทำอันตรายต่อปลามากนัก
1. โปรโตซัว ชนิดที่พบในลำไส้ใหญ่ ได้แก่ Eimeria sp. ถ้ามีเป็นปริมาณมากจะทำให้ปลาผอมได้ ส่วนอีกชนิดพบในระบบหมุนเวียนโลหิต ได้แก่ Trypanosoma sp. ปรสิตชนิดนี้แม้จะตรวจพบในระบบเลือดของปลานิลแต่ยังไม่มีรายงานแน่ชัดว่าทำ ให้ปลานิลป่วยหรือตายได้
2. เมตาซัว ได้แก่ digenetic, trematodes, cestodes, mematodes และ acanthocephalan
โรคที่มีสาเหตุมาจากแบคทีเรีย
1. โรคตัวด่าง เกิดจาก Flexibacter columnaris พบในปลานิลที่เลี้ยงน้ำจืด ส่วนปลานิลที่เลี้ยงน้ำกร่อยจะเป็นชนิด F. maritimus โรคนี้มักพบในช่วงที่อากาศมีการเปลี่ยนแปลงกะทันหัน ในช่วงอากาศเย็น ในช่วงฝนตกหนัก และหลังจากการขนย้ายปลา ปลาที่พบว่ามีอาการตัวด่างมักตายในเวลาอันรวดเร็ว ถ้าไม่รีบรักษาทันทีปลาจะตายหมดบ่อภายใน 24 - 48 ชั่วโมง
การรักษา : ใช้ยาเหลือง Aeriflavin แช่ในอัตราความเข้มข้น 1 - 3 ppm. ถ้าลูกปลาที่อนุบาลในบ่อปูน หรือถังไฟเบอร์ อาจใช้ด่างทับทิมในอัตราความเข้มข้น 2 - 4 ppm. แช่ตลอด
2. โรคติดเชื้อ Aeromonas ปลาจะมีอาการตกเลือดตามตัว ท้องบวม มีเลือดปนน้ำเหลืองในช่องท้องหรือมีแผลหลุม
การรักษา : ใช้ยาปฏิชีวนะผสมอาหารในอัตรา 3 - 5 กรัมต่ออาหาร 1 กิโลกรัม ให้ปลากินนาน 5 - 7 วัน
3. โรคติดเชื้อ Streptococcus ปลามีอาการตาขุ่น ตาบอด หรือตกเลือดภายในลูกตา บางครั้งพบว่าใต้คางหรือช่องขับถ่ายมีอาการบวมแดงมีน้ำเลือดภายในช่องท้อง โรคนี้จะเป็นลักษณะของโรคที่เรื้อรังคือ ปลาจะแสดงอาการของโรคช้าและเป็นระยะเวลานานกว่าปลาจะตาย
การรักษา : ใช้ยาปฏิชีวนะผสมอาหารในอัตรา 3 - 5 กรัมต่ออาหาร 1 กิโลกรัม นาน 5 - 7 วัน
โรคที่เกิดจากเชื้อรา
รา เป็นสาเหตุของโรค ได้แก่ Achlya sp. และ Aphanomyces sp. ทำให้ปลาเกิดแผลและบริเวณแผลจะมีเส้นสีขาวคล้ายขนขึ้นฟูเป็นกระจุกปลาป่วยจะ กินอาหารน้อยลง
การรักษา : ใช้ trifluralin แช่ในอัตราความเข้มข้น 0.05 - 0.1 ppm.
โรคที่มีสาเหตุมาจากเชื้อไวรัส
ในประเทศไทยยังไม่มีรายงาน
การป้องกันการเกิดโรค
1. ระวังไม่ให้ปลาเกิดความเครียด โดยการดูแลสภาพแวดล้อมให้เหมาะสม ไม่ปล่อยปลาหนาแน่นจนเกินไป มีการถ่ายเทน้ำให้อาหารที่มีคุณภาพและปริมาณที่เหมาะสม
2. เมื่อนำปลาใหม่เข้ามาในฟาร์ม ควรจะแช่ฟอร์มาลินในอัตราความเข้มข้น 25 - 30 ppm. (ส่วนในล้าน) เพื่อจำกัดปรสิตที่อาจติดมากับตัวปลา
3. เมื่อมีการขนส่งปลา ควรแช่เกลือในอัตรา 0.1 - 0.5 % เพื่อลดความเครียดให้กับปลา
4. ซื้อพันธุ์ลูกปลาจากแหล่งที่เชื่อถือได้ว่าไม่เคยมีการระบาดของโรคปลา
5. ถ้ามีการนำผักตบหรือผักบุ้งใส่ลงในบ่อ ควรจะทำความสะอาดรากและใบของผักก่อน โดยการแช่ด่างทับทิมเข้มข้น 5 ppm. นาน 10 นาที จึงล้างน้ำสะอาดก่อนใส่ลงในบ่อ เพื่อลดสปอร์ของเชื้อราและปรสิตที่อาจติดมา
ขอบคุณที่มาจาก นิตยาสารเกษตรศาสตร์ ปีที่ 8 ฉบับที่ 4 เมษายน 2550
ขอบคุณที่มาจาก นิตยาสารเกษตรศาสตร์ ปีที่ 8 ฉบับที่ 4 เมษายน 2550
ป้ายกำกับ:
โรคปลา
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)