บุญลาภฟาร์ม จำหน่าย พันธุ์ปลาน้ำจืดทุกชนิด พันธุ์ปลาดุก พันธุ์ปลานิล พันธุ์ปลาทับทิม พันธุ์ปลาสวาย พันธุ์ปลาบึก พันธุ์ปลาตะเพียน ปลาไซด์ใหญ่ บ่อตกปลา ส่งทุกที่-มีทุกพันธุ์ 081-3057577 farm-fish@hotmail.com **** 46ม.7ต.ท่าข้ามอ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี ****
พันธุ์ปลาดุก ขนาด(2-3)นิ้ว
พันธุ์ปลาดุก ขนาด(3-4)นิ้ว
พันธุ์ปลาดุก ขนาด(4-5)นิ้ว
พันธุ์ปลานิล
พันธุ์ปลาทับทิม
พันธุ์ปลาสวาย
ปลาสวายลงบ่อตก
กุ้งก้ามกราม
พันธุ์ปลาแรด
พันธุ์ปลาหมอไทย
พันธุ์ปลาจาระเม็ดน้ำจืด
พันธุ์ปลาจีน
พันธุ์ปลาตะเพียน
พันธุ์ปลายี่สก
พันธุ์ปลาจระเข้
พันธุ์ปลาไน
พันธุ์ปลาบึก
ปลาบึกลงบ่อตก
วันพุธที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2553
วันอังคารที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2553
วันพฤหัสบดีที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2553
EYE-SPOT BARB กระสูบจุด
ชื่อไทย | กะสูบจุด |
ชื่อสามัญ | EYE - SPOT BARB |
ชื่อวิทยาศาสตร์ | Hampala dispar |
ถิ่นอาศัย | พบในแม่น้ำลำคลอง หนองและบึง ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เช่น แม่น้ำมูลที่อุบลราชธานี หนองหานจังหวัดสกลนคร แม่น้ำศรีสงครามจังหวัดนครพนม และห้วยหลวงจังหวัดอุดรธานี |
ลักษณะทั่วไป | เป็นปลารวมฝูง อยู่ในสกุลเดียวกับปลากะสูบขีด รูปร่างลักษณะคล้ายคลึงกันมากแต่ขนาดเล็กกว่า ลักษณะที่แตกต่างไปจากกะสูบขีด คือ ครีบหางเล็กและสั้น แฉกบนของครีบหางใหญ่กว่าแฉกล่าง หนวดที่ริมปากบนสั้นมาก ลักษณะที่เด่นอยู่ตรงที่มีจุดดำขนาดใหญ่อยู่กลางลำตัวข้างละจุด หางมีสีแดงเหมือนกะสูบขีด แต่ริมแฉกบนและล่างไม่มีแถบสีคล้ำ |
การสืบพันธุ์ | - |
อาหารธรรมชาติ | กินลูกกุ้ง ลูกปลาซึ่งมีขนาดเล็กกว่า |
การแพร่กระจาย | - |
สถานภาพ (ความสำคัญ) | เป็นอาหารได้ทั้งสดและแปรรูปทำเป็นปลาร้า ปลาเจ่า |
ที่มาของข้อมูล : กรมประมง |
ป้ายกำกับ:
กระสูบจุด
TRANSERSE-BAR BARB กระสูบขีด
ชื่อไทย | กะสูบขีด |
ชื่อสามัญ | TRANSVERSE - BAR BARB |
ชื่อวิทยาศาสตร์ | Hampala macrolepidota |
ถิ่นอาศัย | พบในแม่น้ำลำคลองทั่วไป ภาคใต้พบที่แม่น้ำปัตตานี แม่น้ำตาปีและในทะเลสาบสงขลา ภาคกลางพบที่แม่น้ำเจ้าพระยาเรื่อยไปจนถึงบึงบอระเพ็ด แม่น้ำท่าจีน แม่น้ำบางปะกง ภาคเหนือพบที่แม่น้ำแม่ปิง แม่น้ำจีน และภาคอีสานพบที่แม่น้ำโขง แม่น้ำมูล แม่น้ำศรีสงคราม และในเขตจังหวัดชลบุรี จันทบุรี และตราด |
ลักษณะทั่วไป | เป็นปลาที่อยู่ในวงศ์เดียวกันกับปลาตะเพียน ตัวค่อนข้างยาว แบนข้างเล็กน้อย ส่วนหัวยาว ท้องกลมมน จะงอยปากแหลม ปากกว้างมากและเฉียงขึ้นเล็กน้อย มีหนวดที่มุมปากบนหนึ่งคู่ ครีบหลังค่อนข้างเล็ก อยู่ตรงข้ามกับครีบท้อง เกล็ดใหญ่ ครีบหางเป็นแฉกลึก สีของปลาชนิดนี้เป็นที่สะดุดตาแตกต่างกับปลาชนิดอื่นอย่างเด่นชัด เมื่อเจริญวัยเต็มที่ลำตัวจะเป็นสีขาวเงิน ด้านหลังสีคล้ำอมน้ำตาล ด้านท้องสีจาง มีลายดำพาดขวางกลางตัว จากส่วนหน้าของครีบหลังไปยังฐานของครีบท้อง ครีบมีสีคล้ำแดงเรื่อ ครีบหางที่ริมแฉกบนและล่างของหางเป็นสีดำ |
การสืบพันธุ์ | - |
อาหารธรรมชาติ | กินปลาขนาดเล็กเป็นอาหาร |
การแพร่กระจาย | - |
สถานภาพ (ความสำคัญ) | เป็นสัตว์น้ำเศรษฐกิจ |
ที่มาของข้อมูล : กรมประมง |
ป้ายกำกับ:
กระสูบขีด
วันอังคารที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2553
FIRE SPINY EEL กระทิงไฟ, กระทิงลายดอกไม้

ชื่อไทย กะทิงไฟ กะทิงลายดอกไม้
ชื่อสามัญ FIRE SPINY EEL
ชื่อวิทยาศาสตร์ Mastacembelus erythrotaenia
ถิ่นอาศัย มีอยู่ในบริเวณน้ำจืดและน้ำกร่อย ในแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำท่าจีน ทางภาคใต้ที่ทะเลน้อย ( ทะเลสาบสงขลาตอนใน ) แม่น้ำตาปี ชาวใต้เรียกชื่อปลานี้ว่าปลากะทิงลายดอกไม้
ลักษณะทั่วไป เป็นปลาที่อยู่สกุลเดียวกับปลากะทิงดำ แตกต่างกันที่สีของลำตัว กะทิงไฟมีสีน้ำตาลหรือดำมีแต้มและแถบสีแดงขนาดใหญ่และเล็กเรียงแถวตามความยาวลำตัว ครีบหูมีสีดำขอบแดง ลักษณะทางอนุกรมวิธานที่แตกต่างจากกระทิงชนิดอื่นคือกะทิงไฟไม่มีกระดูกที่เป็นหนามแหลมอยู่บริเวณหน้านัยน์ตา กะทิงไฟที่พบในภาคกลาง จะมีสีแดงสดใสกว่าแหล่งน้ำอื่น
การสืบพันธุ์ -
อาหารธรรมชาติ กินแมลง ลูกกุ้ง ลูกกบและปลาอื่น ๆ ซึ่งมีขนาดเล็กกว่า
การแพร่กระจาย -
สถานภาพ (ความสำคัญ) เป็นปลาสวยงาม ที่นิยมเลี้ยงกันอย่างแพร่หลาย
ที่มาของข้อมูล : กรมประมง


ที่มาของข้อมูล : กรมประมง
ป้ายกำกับ:
กระทิงไฟ,
กระทิงลายดอกไม้
ARMED SPINY EEL กระทิงดำ, หลาด
ชื่อไทย | กะทิงดำ หลาด | |
ชื่อสามัญ | ARMED SPINY EEL | |
ชื่อวิทยาศาสตร์ | Mastacembelus armatus | |
ถิ่นอาศัย | ในแม่น้ำ หนองบึงและอ่างเก็บน้ำทั่วทุกภาค | |
ลักษณะทั่วไป | ลำตัวเรียวยาว แบนข้างเล็กน้อย มีเกล็ดเล็กละเอียดบนลำตัวและหัว หัวมีลายตั้งแต่ปลายจะงอยปากคาดมาที่ตาถึงช่องเปิดเหงือก ตาเล็ก ครีบอกใหญ่ ปากเล็ก ฟันซี่เล็ก ลักษณะของจะงอยปากยาวดูคล้ายงวง ช่องเหงือกแคบเล็ก อยู่ค่อนไปทางตอนใต้ของส่วนหัว ครีบหลัง ครีบหางและครีบก้นเชื่อมติดกัน ด้านหลังมีก้านครีบแข็งสั้นหลายอัน ไม่มีครีบท้อง ตัวมีสีเทาอ่อนหรือน้ำตาลอมเหลือง มีลายสีคล้ำเป็นวงหรือเป็นเส้น มีลวดลายหลายแบบ ด้านท้องสีจาง ครีบมีสีคล้ำมีจุดประสีเหลืองอ่อน ความยาวทั่วไปประมาณ 30 - 50 ซม . | |
การสืบพันธุ์ | ผสมพันธุ์วางไข่ตอนเช้ามืด ไข่เป็นแบบจมติดกับสาหร่ายสีเหลืองเข้ม | |
อาหารธรรมชาติ | กินแมลง ลูกกุ้ง ลูกกบและปลาอื่น ๆ ซึ่งมีขนาดเล็กกว่า | |
การแพร่กระจาย | - | |
สถานภาพ (ความสำคัญ) | เป็นสัตว์น้ำเศรษฐกิจ | |
ที่มาของข้อมูล : กรมประมง |
THREE-SPOT GOURAMI กระดี่หม้อ, สลาก, สลาง

ชื่อไทย กระดี่หม้อ สลาก สลาง
ชื่อสามัญ THREE-SPOT GOURAMI
ชื่อวิทยาศาสตร์ Trichogaster trichopterus
ถิ่นอาศัย อยู่ตามลำธาร คลอง หนอง บึงและบ่อที่มีวัชพืชปกคลุม เพื่อใช้เป็นแหล่งอาศัยขยายพันธุ์และหลบหลีกจากศัตรู สามารถอยู่ในแหล่งน้ำที่เป็นกรดหรือใกล้เสียได้ ทำรังวางไข่โดยก่อหวอดปนกับเศษหญ้า ตัวผู้เป็นผู้ดูแลไข่
ลักษณะทั่วไป มีปริมาณชุกชุมกว่าปลาชนิดอื่นในจำพวกเดียวกัน รูปร่างป้อมกว่ากระดี่นาง ส่วนท้ายไม่เรียวเล็ก หัวเล็ก ตาเล็ก และปากเล็กอยู่ปลายสุดของจะงอยปาก ลำตัวแบนข้างมาก ส่วนหลังยกสูงเล็กน้อย ครีบอกเล็ก ครีบท้องเป็นเส้นยาว ครีบหางเว้าตื้นปลายมน ลำตัวสีขาวเงินเทาอมฟ้า มีริ้วดำพาดขวางเป็นทางประตลอดลำตัว ลักษณะพิเศษคือมีจุดดำที่กลางลำตัวและตรงบริเวณคอดหางแห่งละจุด ครีบก้นมีจุดประสีส้มหรือเหลืองและขอบสีเหลือง ครีบอื่นใส ครีบหางใสมีประสีคล้ำ ความยาวประมาณ 8 - 10 ซม .
การสืบพันธุ์ -
อาหารธรรมชาติ กินตะไคร่น้ำ แมลง และสิ่งมีชีวิตเล็กๆ
การแพร่กระจาย -
สถานภาพ (ความสำคัญ) นิยมเลี้ยงเป็นปลาสวยงามกันแพร่หลาย และเป็นปลาเศรษฐกิจ
ที่มาของข้อมูล : กรมประมง

ที่มาของข้อมูล : กรมประมง
ป้ายกำกับ:
กระดี่หม้อ,
สลาก,
สลาง
วันจันทร์ที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2553
MOONLIGHT GOURAMI ปลากระดี่นาง

ชื่อไทย กระดี่นาง
ชื่อสามัญ MOONLIGHT GOURAMI
ชื่อวิทยาศาสตร์ Trichogaster microlepis
ถิ่นอาศัย มีอยู่ทั่วไปตามแหล่งน้ำ หนองบึง ลำห้วย ซึ่งมีพืชพันธุ์ไม้น้ำหนาแน่น
ลักษณะทั่วไป รูปร่างเป็นรูปไข่ ส่วนท้ายเรียว ลำตัวแบนข้างมาก ส่วนหลังยกสูงเล็กน้อย ครีบอกเล็ก ครีบท้องเป็นเส้นยาว ครีบหางเว้าตื้น เกล็ดบาง เล็กละเอียด ขอบเกล็ดเป็นจักรเช่นเดียวกับเกล็ดปลาหมอ ตัวมีสีเทาหรือเงินวาวอมฟ้า ครีบสีจางใส มีขอบสีเหลืองอ่อนเรื่อ ๆ เพศผู้จะมีสีแสดส้มตรงบริเวณท้อง มีนิสัยสงบเสงี่ยม เลี้ยงรวมกับปลาอื่นได้ดี แต่ในฤดูผสมพันธุ์ปลาตัวผู้จะมีนิสัยกีดกันระรานปลาอื่น ความยาวประมาณ 7 - 10 ซม .
การสืบพันธุ์ -
อาหารธรรมชาติ กินแมลงและสิ่งมีชีวิตขนาดเล็ก
การแพร่กระจาย -
สถานภาพ (ความสำคัญ) กินแมลงและสิ่งมีชีวิตขนาดเล็ก
ที่มาของข้อมูล : กรมประมง

ที่มาของข้อมูล : กรมประมง
ป้ายกำกับ:
กระดี่นาง
SIAMESE GLASSFISH ปลาแป้น,ปลา กระจก
YELLOW MYSTUS ปลา กดเหลือง
ชื่อไทย | กดเหลือง |
ชื่อสามัญ | YELLOW MYSTUS , GREEN CATFISH |
ชื่อวิทยาศาสตร์ | Hemibagrus nemurus |
ถิ่นอาศัย | เดิมอาศัยอยู่ในทะเล แต่ได้เข้ามาผสมพันธุ์และวางไข่ในน้ำจืดแล้วไม่กลับสู่ทะเลอีกเลย พบแพร่กระจายอยู่ทั่วทุกภาค |
ลักษณะทั่วไป | ลำตัวยาว แบนข้างเล็กน้อยทางส่วนหาง หัวค่อนข้างแบนลง ตาไม่มีหนังปกคลุม มีหนวด 4 คู่ ที่จมูก ริมฝีปากบน ริมฝีปากล่าง และใต้คาง หนวดที่ริมฝีปากบนยาวถึงครีบก้น หนวดที่จมูกสั้น ยาวจรดนัยน์ตา ครีบหลังมีหนามแหลมคม 1 อัน ครีบหูมีหนามแหลมเช่นเดียวกับครีบหลัง ครีบไขมันมีขนาดใหญ่และยาว สีของลำตัวเป็นสีน้ำตาลปนเหลือง ด้านหลัง สีน้ำตาลปนเขียว ท้องสีเหลืองอ่อน |
การสืบพันธุ์ | ฤดูกาลวางไข่แตกต่างกันไปตามสภาพและที่ตั้งของพื้นที่ เพาะพันธุ์โดยใช้ฮอร์โมนสังเคราะห์ร่วมกับยาเสริมฤทธิ์ ฉีดแม่ปลาเข็มแรกในอัตรา 5 - 7 ไมโครกรัมและยาเสริมฤทธิ์ 5 มิลลิกรัมต่อแม่ปลาน้ำหนัก 1 กิโลกรัม เข็มที่ 2 ห่างจากเข็มแรก 6 ชั่วโมง ในอัตรา 15 - 20 ไมโครกรัมและยาเสริมฤทธิ์ 5 มิลลิกรัม ส่วนปลาเพศผู้อาจไม่จำเป็นต้องฉีดฮอร์โมนกระตุ้นก็ได้ แม่ปลาพร้อมที่จะรีดไข่ผสมน้ำเชื้อหลังการฉีดยาเข็มที่ 2 ประมาณ 6 - 8 ชั่วโมง ก็สามารถผสมเทียมได้ แล้วนำไข่ไปโรยบนมุ้งไนล่อนสีฟ้า ไข่เป็นไข่จมและติดกับวัตถุ (adhesive egg) ไข่จะฟักเป็นตัวในเวลา 27 - 30 ชั่วโมง ที่อุณหภูมิน้ำ 26 - 27 องศาเซลเซียส |
อาหารธรรมชาติ | กินปลา ลูกกุ้ง แมลงน้ำ และสัตว์น้ำขนาดเล็ก |
การแพร่กระจาย | - |
สถานภาพ (ความสำคัญ) | เป็นปลาเศรษฐกิจที่ใช้บริโภคทั้งสดและแห้ง |
ที่มาของข้อมูล : กรมประมง |
ป้ายกำกับ:
กดเหลือง
วันเสาร์ที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2553
SIAMESE ROCK CATFISH กดหิน, แขยงหิน
ชื่อไทย | กดหิน แขยงหิน |
ชื่อสามัญ | SIAMESE ROCK CATFISH |
ชื่อวิทยาศาสตร์ | Leiocassis siamensis |
ถิ่นอาศัย | อยู่ตามลำธาร เช่น บริเวณปากน้ำโพ จังหวัดนครสวรรค์ แม่น้ำวัง จังหวัดลำปาง แม่น้ำแม่กลอง จังหวัดราชบุรี ฯลฯ |
ลักษณะทั่วไป | ลำตัวค่อนข้างยาว ไม่มีเกล็ด หัวแบนราบลงเล็กน้อย ตามีผิวหนังใสปิดคลุม มีฟันซี่แหลมเล็กๆ อยู่บนขากรรไกร และเพดานปาก มีหนวด 4 คู่ มีรูจมูกข้างละหนึ่งคู่ แต่ละคู่อยู่ห่างจากกัน ครีบหลังและครีบหูมีหนามแหลม ลำตัวมีพื้นสีขาวหรือสีเหลืองอ่อน มีแถบดำหรือน้ำตาลเข้มพาดขวางลำตัว แถบที่ว่านี้จะมีขนาดโตกว่าช่วงสีพื้นของลำตัว ขนาดและที่ตั้งของแถบเหล่านี้จะเปลี่ยนแปลงไปตามขนาดและอายุของปลา |
การสืบพันธุ์ | - |
อาหารธรรมชาติ | กินลูกปลา ลูกกุ้ง และสัตว์น้ำที่มีขนาดเล็ก |
การแพร่กระจาย | - |
สถานภาพ (ความสำคัญ) | นิยมเลี้ยงเป็นปลาสวยงาม |
ที่มาของข้อมูล : กรมประมง |
TRUNCATED ESTUARINE CATFISH กดหลาว
ป้ายกำกับ:
กดหลาว
Mekong Giant Catfish ปลาบึก
การจัดการความรู้ในองค์กร - ปลาบึก | | | |
ปลาบึก (Mekong Giant Catfish, Pangasianodon gigas Chevey, 1930) เป็นปลาน้ำจืดที่ไม่มีเกล็ดที่ใหญ่ที่สุดในโลก จัดเป็นปลาที่อยู่ในกลุ่มสัตว์หายากและใกล้จะสูญพันธุ์ ขนาดโตเต็มที่ยาวประมาณ 3 เมตร มีน้ำหนักมากกว่า 250 กิโลกรัม มีแหล่งอาศัยอยู่เฉพาะแม่น้ำโขง ชาวไทยและชาวลาวรู้จักปลาชนิดนี้มาแต่ดึกดำบรรพ์ในชื่อ “บึก” โสม(2510) อธิบายว่า “บึก” นี้เพี้ยนมาจาก “หึก” ซึ่งเป็นคำในภาษาของกลุ่มชนสองฝั่งโขง ได้แก่ ไทยเหนือ ไทยอีสาน และลาว หมายถึง “ใหญ่” ดังนั้นจึงเรียกปลาที่มีขนาดมหึมาชนิดนี้ว่า “ปลาหึก” เมื่อนานไปเลยเพี้ยนกลายเป็น “ปลาบึก” ตราบจนทุกวันนี้ กรมประมงสามารถเพาะพันธุ์ปลาบึกได้สำเร็จครั้งแรกเมื่อปี 2526 แต่ได้ลูกปลาไม่มากนัก ต่อมาในปี 2527 ได้ดำเนินการเพาะพันธุ์อีกครั้ง ซึ่งครั้งนี้ได้ลูกปลาจำนวนมาก ลูกปลาที่ได้จากการเพาะพันธุ์ครั้งนี้ได้ส่งไปทดลองเลี้ยงในบ่อดิน ตามสถานีประมงทั่วประเทศ
ป้ายกำกับ:
ปลาบึก
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)